เมนู

อีก ขอท่านโปรดยกโทษแก่ข้าพเจ้า ดังนี้ ก็ไม่ยอมรับการขอขมานี้ตาม
ธรรม คือตามสมควร คือไม่กล่าวว่า จำเดิมแต่นี้ ท่านอย่าได้ทำอย่างนี้
อีก เรายกโทษแก่ท่าน ดังนี้. ธรรมฝ่ายขาวพึงทราบโดยนัยตรงกันข้าม
กับที่กล่าวแล้ว.
จบอรรถกถาสูตรที่ 1

สูตรที่ 2



ว่าด้วยคน 2 จำพวก กล่าวตู่พระตถาคต



[268] 22. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คน 2 จำพวกนี้ย่อมกล่าวตู่
ตถาคต 2 จำพวกเป็นไฉน คือ คนเจ้าโทสะซึ่งมีโทษอยู่ภายใน 1 คน
ที่เชื่อโดยถือผิด 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คน 2 จำพวกนี้ ย่อมกล่าว
ตู่ตถาคต.
จบสูตรที่ 2

อรรถกถาสูตรที่ 2



ในสูตรที่ 2 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า อพฺภาจิกฺขนฺติ ได้แก่ กล่าวตู่ คือกล่าวด้วยเรื่องไม่จริง
บทว่า โทสนฺตโร แปลว่า มีโทสะตั้งอยู่ในภายใน. จริงอยู่ คนแบบนี้
ย่อมกล่าวตู่พระตถาคต เช่น สุนักขัตตลิจฉวี กล่าวว่า อุตตริมนุสสธรรม
ของพระสมณโคดมหามีไม่. บทว่า สทฺโธ วา ทุคฺคหิเตน ความว่า
หรือว่า ผู้ที่มีศรัทธาแก่กล้า ด้วยศรัทธาที่เว้นจากญาณ มีความเลื่อมใส
อ่อนนั้น ถือผิด ๆ กล่าวตู่พระตถาคตโดยนัยเป็นต้นว่า ขึ้นชื่อว่า
พระพุทธเจ้านั้น เป็นโลกุตระทั้งพระองค์ พระอาการ 32 มีพระเกสา

เป็นต้นของพระองค์ล้วนเป็นโลกุตระทั้งนั้น ดังนี้.
จบอรรถกถาสูตรที่ 2

สูตรที่ 3



ว่าด้วยคน 2 จำพวกที่กล่าวตู่และไม่กล่าวตู่พระตถาคต



[269] 23. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คน 2 จำพวกนี้ ย่อมกล่าวตู่
ตถาคต 2 จำพวกเป็นไฉน คือ คนที่แสดงสิ่งที่ตถาคตมิได้ภาษิตไว้
มิได้ตรัสไว้ว่า ตถาคตได้ภาษิตไว้ ได้ตรัสไว้ 1 คนที่แสดงสิ่งที่ตถาคต
ภาษิตไว้ ตรัสไว้ว่า ตถาคตมิได้ภาษิตไว้ มิได้ตรัสไว้ 1 ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย คน 2 จำพวกนี้แล. ย่อมกล่าวตู่ตถาคต ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
คน 2 จำพวกนี้ ย่อมไม่กล่าวตู่ตถาคต 2 จำพวกเป็นไฉน คือ คนที่
แสดงสิ่งที่ตถาคตมิได้ภาษิตไว้ มิได้ตรัสไว้ว่า ตถาคตมิได้ภาษิตไว้ มิได้
ตรัสไว้ 1 คนที่แสดงสิ่งที่ตถาคตภาษิตไว้ ตรัสไว้ว่า ตถาคตภาษิตไว้
ตรัสไว้ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คน 2 จำพวกนี้แล ย่อมไม่กล่าวตู่
ตถาคต.
จบสูตรที่ 3

อรรถกถาสูตรที่ 3



ในสูตรที่ 3 ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาสูตรที่ 3